แนวทางการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ดีต้องทำอย่างไร

กล่องกระดาษแข็ง กล่องจั่วปัง | การออกแบบให้สวยงาม

กล่องกระดาษแข็ง กล่องจั่วปัง | การออกแบบให้สวยงาม คือ อาภรณ์หรูที่จะช่วยให้สินค้าคุณขายดี

บรรจุภัณฑ์ ช่วยโลกในการจัดระเบียบการจัดเก็บสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างแท้จริง ลองดูกระเป๋าสำหรับใส่ขนมกระจุกกระจิก ถุงผ้าสำหรับใส่เสื้อผ้าเตรียมนำไปซัก กับ ขวดสำหรับเครื่องดื่มรสชาดโปรดปรานของคุณ สามตัวอย่างที่ยกมากล่าวนี้ จะทำให้บรรจุภัณฑ์มีความหมายขึ้นมาแล้ว

บรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าจะมีความสำคัญขึ้นอย่างไร ใช่ ผมกลับพูดถึง สื่อภาชนะที่เหมาะเหม็งกับสินค้าแต่ละชนิด ลองหลับตานึกดูว่า การดื่มเบียร์จากขวด (โดยพฤติกรรมนี้ มักจะเป็นนิสัยของนักดื่มเบียร์จากขวดขนาดเล็ก หรือจากกระป๋องเหล็ก) โดยการยกกระดกแล้วดื่มอย่างสมใจ คุณยังมีวิธีดื่มแบบไหนสาแก่ใจกว่านี้อีกไม๊ ซึ่งยังกินความหมายมากกว่านั้น เช่น การออกแบบขวดภาชนะนั้นอย่างดี ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของสินค้าไปในต้ว เกี่ยวกับประสบการณ์ความรู้สึกที่ลึกซึ้งผ่านการมองดู สัมผัส และลิ้มรสสัมผัส ตามชนิดของสินค้าและบรรจุภัณฑ์ของมัน

กล่องกระดาษแข็ง กล่องจั่วปัง | การออกแบบให้สวยงาม
กล่องกระดาษแข็ง กล่องจั่วปัง | การออกแบบให้สวยงาม

สิ่งเหล่านี้แหละที่สร้างความเชื่อมโยงการบริโภคผ่านการเรียนรู้ว่า จะใช้ประโยชน์จากมันอย่างไร ใครจะเป็นผู้ใช้ และการสร้างประสบการณ์สำคัญที่สุดคือ การตัดสินใจว่าจะเลือกซื้อสินค้าเหล่านั้นหรือไม่

ผมจะเล่าให้คุณฟังเกี่ยวกับการสร้างและเล่าเรื่องราวสินค้า (Story Telling) ผ่านบรรจุภัณฑ์ของคุณอย่างไร เพื่อสร้างแนวทางการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ดีและเหมาะกับสินค้าของคุณ

กล่องกระดาษแข็ง กล่องจั่วปัง | การออกแบบให้สวยงาม ก่อนจะเริ่มการออกแบบบรรจุภัณฑ์ของคุณ

3 คำถามสำคัญที่คุณต้องรู้

3 ส่ิงหลักๆ ที่สำคัญมากที่คุณจะต้องตอบคำถามให้ได้ ก่อนที่คุณคิดจะเริ่มออกแบบบรรจุภัณฑ์ คือ
สินค้า คือ อะไร?
ใครเป็นผู้ซื้อสินค้านั้น?
คนซื้อ เขาซื้ออย่างไร?

1) สินค้า คือ อะไร?
นี่ไม่ใช่คำถามลวงถาม หรือกวนประสาท ที่จริงเป็นคำถามง่ายๆ คือ คุณขายอะไร ขนาดใหญ่เล็กแค่ไหน ทำจากวัสดุอะไร มันเปราะบางแค่ไหน

เพราะคำถามเหล่านี้นำไปสู่การช่วยคุณหานิยาม และหาความจริงสำหรับการออกแบบบรรจุภัณฑ์สินค้าของคุณ เช่น สินค้าที่เปราะบางย่อมต้องการการปกป้องสินค้าที่ปลอดภัยมากที่สุด สินค้าที่มีขนาดใหญ่โต หรือมีลักษณะเฉพาะ ย่อมต้องการวิธีการออกแบบเฉพาะทางพิเศษกว่าสินค้าปกติแบบทั่วๆ ไป

2) ใครเป็นผู้ซื้อสินค้านั้น?
ผู้ซื้อเป็นเพศใด ชาย หรือ หญิง หรือทั้งสองเพศ?
สินค้านั้นเหมาะสำหรับเด็ก หรือ ผู้ใหญ่?
สินค้านั้นเหมาะกับผู้ที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมหรือไม่?
สินค้านั้นเหมาะกับผู้บริโภคที่มีกำลังทรัพย์ระดับไหน? จำกัดงบ? หรือหรูหราได้?

บรรจุภัณฑ์ควรมีเสน่ห์และดึงดูดความสนใจของผู้ซื้อมุ่งหวังได้ ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุด ก่อนที่คุณจะเริ่มการออกแบบบรรจุภัณฑ์ของคุณ ต้องทราบคำตอบของคำถามเหล่านี้ให้ดีเสียก่อน เพื่อจะได้กำหนดทิศทาง กลุ่มเป้าหมายได้ตรง และทรงประสิทธิภาพ เช่น สินค้าสำหรับผู้สูงอายุ ควรใช้ตัวอักษรใหญ่ ส่วนสินค้าที่มุ่งเป้าไปที่กลุ่มผู้มีฐานะควรพิจารณาวัสดุที่สร้างความรู้สึกหรูหราได้ เป็นต้น

กล่องกระดาษแข็ง กล่องจั่วปัง | การออกแบบให้สวยงาม
กลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการออกแบบให้สื่อถึงตรงจุดเป้าหมาย

3) คนซื้อเหล่านั้น ซื้ออย่างไร
ช่องทางใดที่พวกเขาเลือกซื้อสินค้า เช่น ในซุปเปอร์มาร์เก็ต? ในร้านหรูขนาดเล็ก? หรือทางอินเตอร์เน็ตออนไลน์ ฯลฯ

นั่นทำให้คุณต้องพิจารณาความเหมาะสมในการเลือกบรรจุภัณฑ์ที่จะต้องออกแบบให้ถูกต้องตรงกับช่องทางการจำหน่าย ไม่ว่าจะเป็นทางออนไลน์ หรือซื้อจากร้านค้า ก็ต้องมีกลยุทธ์ในการทำให้มีความน่าสนใจกว่าของคู่แข่งหากสินค้าตั้งอยู่บนชั้นวางสินค้า หากเป็นสินค้าที่ถูกสั่งซื้อทางออนไลน์ ก็ควรพิจารณาการออกแบบให้กระชับ ลดพื้นที่ที่ไม่จำเป็นเพื่อหลีกเลี่ยงการสั่นสะเทือน เขย่าทำให้โพล่กเพลก เพื่อประกันการบิดเบี้ยวหรือหักงอในระหว่างการขนส่งในกรณีเป็นสินค้าบูติกบนชั้นวางสินค้า ก็ควรมีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นจับต้องสายตาของผู้ซื้อ ซึ่งแวดล้อมไปด้วยสินค้าคู่แข่งอีกมากมาย แนวคิดที่ดีและการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่สวยงามจะทำให้สินค้ามีโอกาสถูกเลือกมากขึ้น

พอจะมองเห็นภาพชัดเจนขึ้นหรือไม่ครับ? ถ้าคุณตอบว่า “ครับ/ค่ะ” งั้นการอธิบายของผมก็ใช้ได้ดี ต่อจากนี้จะเป็นแนวทางการแนะนำคุณเกี่ยวกับการนำข้อมูลเหล่านี้มาพิจารณาในขั้นตอนกระบวนการออกแบบบรรจุภัณฑ์ของคุณแล้ว

คุณยังขบคิดเกี่ยวคำถามข้างต้นอยู่ไม๊? ถ้าใช่ล่ะก็ คุณน่าจะยังไม่พร้อมสำหรับขั้นตอนการออกแบบบรรจุภัณฑ์ แต่เอาน่า ไม่เป็นไร มันจะดีกว่ามาก หากใช้เวลาเพิ่มอีกหน่อยแต่สามารถช่วยให้คุณเข้าใจได้ดีขึ้น จะเกิดผลดีกว่าการก้าวข้ามเร็วเกินไป

ข้อมูลที่คุณจำต้องเสาะหาเพิ่ม

ความต้องการเกี่ยวกับแบรนด์

ในบางครั้ง สินค้าจะถูกปล่อยให้ยืนอยู่อย่างโดดเดี่ยว ในบางกรณีมันถูกกำหนดให้เป็นตัวแทนของการก่อตั้งแบรนด์ หากบรรจุภัณฑ์ของคุณเน้นเรื่องนี้ แน่นอนว่า ความสวยงามของตราสินค้าเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นคุณต้องมั่นใจก่อนว่าได้รวบรวมข้อมูลดังต่อไปนี้อย่างเพียงพอก่อนเริ่มต้นการออกแบบ:

โทนสี และ สีสรร หากคุณมีข้อมูลเกี่ยวกับค่าสีในการออกแบบเพื่อการพิมพ์ เช่น ค่าสี CMYK หรือแม้กระทั่งค่าสี PMS (Pantone Matching Values) นั่นจะช่วยให้คุณทำงานได้อย่างมีทิศทาง หรือค่าความแน่ชัดของสีในระบบอื่นใดก็ตาม ก็สามารถนับรวมได้

ฟ้อนต์ รูปแบบ รูปทรงตัวอักษรที่่จะใช้ร่วมในการออกแบบ ตลอดจนรายละเอียดของรูปทรงอักษเหล่านั้น เช่น การจัดระยะของอักษร หรือ รูปแบบความหนาของตัวอักษร ฯลฯ

หากต้องการใส่โลโก้ลงบนบรรจุภัณฑ์ ควรมีเวกเตอร์ไฟล์ที่เหมาะสมและมีความยืดหยุ่นสามารถกำหนดขนาดที่เหมาะสมสำหรับการพิมพ์

เนื้อหาสำคัญที่คุณต้องการจะวางลงบนบรรจุภัณฑ์
1] ข้อความ (เนื้อหา) ควรจะมีความสวยและมีเอกลักษณ์เฉพาะสำหรับสินค้า และคุณมีการเตรียมพร้อมสำหรับเป็นข้อมูลทรัพยากรในการออกแบบไว้ก่อนการออกแบบ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแวดวงอุตสาหกรรมของคุณที่อาจมีข้อกำหนดตามกฎหมายเฉพาะให้คุณต้องใส่ไว้ประกอบคำอธิบายเกี่ยวกับสินค้า เช่น:

ข้อความบทเขียน ซึ่งหมายรวมถึง ตัวอักษรข้อความที่เขียนเกี่ยวกับชื่อของสินค้า คำอธิบายการใช้ ข้อมูลส่วนประกอบ รวมไปถึงข้อความสื่อที่บรรยายสรรพคุณหรือคำโฆษณา

2] รูปภาพประกอบ หากต้องการใส่รูปภาพประกอบ คุณควรจะมีการเตรียมไว้แล้วตั้งแต่ก่อนเริ่มการออกแบบ ซึ่งสามารถมีสิทธิ์ใช้ในเชิงการค้าได้อย่างถูกกฎหมาย

3] เครื่องหมายตรารับรองประเภทต่างๆ เช่น บาร์โค้ด รายละเอียดส่วนผสม หรือตรารับรองผลิตภัณฑ์ตามประเภท เช่นตรารับรองมาตรฐานการผลิต รับรองมาตรฐานอุตสาหกรรม เป็นต้น

4] รู้ถึงข้อความจำเป็นที่อาจถูกเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม ของบริบท ในสินค้าจำพวกอาหารและผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์ มีข้อมูลส่วนเพิ่มที่ต้องการจำแนกออกจากข้อมูลรวมปกติของผลิตภัณฑ์ได้ เช่น แถบหรือช่องว่างสำหรับพิมพ์ อายุ (ความใหม่สด) ของสินค้าหรือ เลขที่ล๊อตการผลิต ซึ่งต้องมีการวางแผนล่วงหน้า เผื่อพื้นที่ไว้สำหรับพิมพ์เพิ่มเติมภายหลังตามจำนวน เพื่อรองรับข้อมูลที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงตามที่กล่าวข้างต้น

สไตล์ในเรื่องความชอบและไม่ชอบ

จะเป็นการดีมากหากคุณมีการค้นหาข้อมูล วิจัยความชอบส่วนตัวของคุณก่อนเริ่มกระบวนการออกแบบ โดยเริ่มค้นหารูปแบบที่คุณชอบ เก็บสะสมรูปแบบ สี และรูปทรงบรรจุภัณฑ์เหล่านั้นไว้ แหล่งที่ดีและแนะนำคือ พินเทอเรส (Pinterest) คุณอาจเปิดบัญชีสมัครสมาชิกไว้ และลองหาจากแฮชแท็กที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงสื่อสังคมออนไลน์ อินสตาแกรม (Instagram) ร่วมด้วยก็ได้

โปรดสังเกต รูปแบบที่คุณหามีไว้เป็นแหล่งอ้างอิงและสร้างแรงบันดาลใจในการที่ออกแบบโลโก้ สี และบรรจุภัณฑ์สำหรับผลิตภัณฑ์ของคุณเอง คุณอาจจะชอบสไตล์และองค์ประกอบจากหลายๆ สื่อดังที่แนะนำข้างต้น อย่างไรก็ดี คุณไม่จำเป็นต้องนำสิ่งที่คุณชอบทั้งหมดมาใส่รวมในงานของคุณนะ เพราะว่าคุณชอบ ให้คิดไว้อย่างหนึ่งคือ เลือกและออกแบบไว้ให้เหมาะสำหรับลุกค้ามุ่งหวังจดจำได้มากกว่า ซึ่งไม่ได้เป็นข้อสรุปว่ามันจะต้องสวยที่สุด หรือดีที่สุดเสมอไป

และข้อคิดอีกอย่างหนึ่งเมื่อคุณเริ่มสำรวจรูปแบบของสไตล์ของคุณ ให้คิดเสมือนว่า นั่นเป็นวัตถุดิบสำหรับการนำมาประกอบในงานออกแบบ ซึ่งคุณยังไม่จำเป็นต้องตัดสินใจในทันใด แต่ให้สังเกตดูความแตกต่างของแต่ละองค์ประกอบ

งบประมาณ

สามารถจำแนกออกเป็นสองประเภท ได้แก่
1.) ต้นทุนที่จ่ายครั้งเดียว
2.) ต้นทุนที่จ่ายเป็นครั้งต่อครั้ง

ต้นทุนที่จ่ายครั้งเดียว เป็นค่าใข้จ่ายรวมที่ไม่ว่าคุณจะผลิตมากน้อยเท่าไร คุณก็ต้องจ่ายเป็นค่าอุปกรณ์ (tooling) ค่าจัดพิมพ์ (Printing cost) ซึ่งรวมไปถึงค่าเพลท ค่าพิมพ์ ค่าแรกตั้งเครื่องเร่ิมต้น สำหรับยอดพิมพ์จำนวนตั้งแต่ 500 แผ่นพิมพ์ขึ้นไป รวมไปถึงงานตกแต่ง แปรรูปหลังการพิมพ์เช่น งานเคลือบลามิเนต งานสปอตยูวี งานปั้มนูน ปั้มจม ปั้มขาด หรือพิมพ์ทองเค เหล่านี้เป็นค่าใช้จ่ายที่คุณต้องจ่ายภายในครั้งเดียวแรกนั้นอยู่แล้ว นอกเสียจากคุณมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบของลายกราฟิคในรอบต่อไป

ต้นทุนต่อหน่วยคงที่ ยังคงมีอยู่เช่น ค่าแรงสำหรับการบรรจุสินค้าลงในกล่อง ค่าวัสดุสิ้นเปลืองจำพวกถุงหุ้มสินค้าภายใน กระดาษกรุกันกระแทกและเทปแพ็คกิ้งสำหรับปิดฝาและก้นกล่องบรรจุสินค้า หากมิใช่เป็นการว่าจ้าง ก็คุณนั่นแหล่ะที่จะทำด้วยตัวเอง

คุณคงต้องกำหนดกรอบความคิดไว้ว่า จะสามารถรองรับค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ่ายในกระบวนการออกแบบนี้เท่าไร พึงตระหนักไว้อีกอย่างคือ การได้ราคาที่ถูก ไม่ใช่จะเป็นของดีเสมอ การลงทุนเพิ่มงบประมาณอีกสักหน่อยสำหรับวัสดุที่ดีขึ้นสามารถช่วยให้งานของคุณจบลงด้วยดีและอาจช่วยให้การนำเสนอบรรจุภัณฑ์ของคุณโดดเด่นกว่าของคู่แข่งก็เป็นได้

ทำไมกล่องกระดาษจั่วปัง ราคาแพงจัง

ทำไมกล่องกระดาษจั่วปัง ราคาแพงจัง

ทำไมกล่องกระดาษจั่วปัง ราคาแพงจัง
ทำไมกล่องจั่วปังราคาแพงจัง

วั นหนึ่ง หากคุณมีสินค้าที่คุณอยากนำเสนอออกสู่ตลาดเพื่อการขาย คุณต้องการบรรจุภัณฑ์ที่ดูดี เพื่อให้แน่ใจว่าจะช่วยดันยอดขายหรือทำให้สินค้าของคุณดูมีราคาขึ้นมาล่ะกัอ กล่องกระดาษแข็ง (#กล่องจั่วปัง) มักจะอยู่ในความคิดอ่านลำดับต้นๆ แน่นอนคุณย่อมอยากทราบว่า ราคาใบละเท่าไรล่ะ (คุณจึงต้องคำนวณต้นทุนในใจว่า คุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่) เป็นที่สังเกตุ รับรู้ได้ที่กล่องบรรจุภัณฑ์แบบนี้มันดูดี มีราคา สามารถทำให้สินค้าดูมีคลาสขึ้นมาเลยทีเดียว ใครๆ ก็อยากได้ หรือใครจะไม่อยากหล่ะ? คำถามที่ตามมา คือ

ทำไมกล่องกระดาษจั่วปัง ราคาแพงจัง

สิ่งที่ผมอยากบอกและชวนให้มองให้ลึกลงไป คือ กล่องบรรจุภัณฑ์กระดาษแข็งหรือกล่องจั่วปังนี้ จะช่วยสร้างคุณค่าการยอมรับผ่านความรู้สึกในใจของผู้บริโภคโดยอัตโนมัติว่า สินค้าข้างในจะต้องเป็นของคุณภาพดี มีราคา ทรงคุณค่าอย่างแน่นอน นี่เป็นสิ่งที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้วจากเหล่าผู้ผลิตกล่องชั้นนำในประเทศจีน ถึงมุมมองที่เจ้าของสินค้านำเสนอและสามารถกระตุ้นให้ผู้บริโภคอยากซื้อผลิตภัณฑ์นั้นๆ

แต่…… ทำไมกล่องกระดาษจั่วปัง ราคาแพงจัง

ราคาในการสั่งผลิตกล่องนี่นะสิ ค่อนข้างสูงเอาการทีเดียว ทำให้หลายๆ คน ชะงักงันและเปลี่ยนใจไปในที่สุด ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม แต่ปัจจัยหลักที่สามารถสรุปได้ มาจากเรื่องของ “ ราคา “ การสั่งผลิตค่อนข้างแน่นอน หลายคนอาจไม่สามารถจัดงบประมาณเพื่อสั่งซื้อได้ เป็นที่น่าเสียดาย (ทั้งจากผู้ซื้อ และ​ “ โรงงานของผม “ ที่พลาดโอกาสที่จะผลิตกล่องดีๆ สวยๆ ให้เขา) หากว่า คุณ (ที่เป็นเจ้าของสินค้า และ/หรือ ผู้ที่ต้องการสั่งผลิตกล่อง) สามารถค้นพบผู้ผลิตรายอื่นที่สามารถกำหนดราคาได้ถูกกว่าที่ผม ก็ยินดีด้วย อย่างไรก็ตาม ผมมีข้อคิดและข้อสังเกต เกี่ยวกับสาเหตุว่า ทำไมราคากล่องกระดาษแข็ง จึงราคาสูง หรือแพงกว่ากล่องบรรจุภัณฑ์ประเภทอื่นๆ ซึ่งมีหลายปัจจัยเกี่ยวข้อง คือ

▪ การขึ้นรูปกล่องกระดาษแข็ง

มีขั้นตอน เครื่องมืออุปกรณ์ แม่พิมพ์ขึ้นรูป และอื่นๆ รวมเรียกว่า “ tooling “ ที่เกี่ยวข้องมากชิ้น มากจำนวนกว่ากล่องลูกฟูก (Corrugated Box) และกล่องกระดาษแบบพับได้ (Folding Carton) อยู่มาก โดยเฉพาะการทำงานในแต่ละขั้นตอน ละเอียดและซับซ้อนกว่าหลายประการ

▪ กล่องกระดาษแข็ง (ในบ้านเรา) โดยมาก มักเป็นงานที่ประกอบด้วยมือ

ซึ่งเป็นงานทักษะฝีมือล้วนๆ อาศัยแรงงานจำนวนมากและความเชี่ยวชาญเฉพาะทางจริงๆ ดังนั้น นี่เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักใหญ่ที่ทำให้มีต้นทุนที่สูง ปริมาณในการผลิตจึงไม่เหมาะที่จะทำคราวละจำนวนมากๆ สำหรับโรงงานของผม มีความทันสมัยกว่า เนื่องจากผลิตด้วยเครื่องจักรอัตโนมัติ ทำให้สามารถชดเชยข้อจำกัดในเรื่องปริมาณการผลิต ซึ่งเครื่องจักรสามารถผลิตได้รวดเร็วกว่า และเที่ยงตรงกว่า การประกอบด้วยแรงงานมือ และสามารถผลิตจำนวนมากในเวลาที่รวดเร็วกว่า อย่างไรก็ดี การผลิตด้วยเครื่องจักรมีขั้นตอนการติดตั้งที่ซับซ้อนกว่า และมีค่าดำเนินการสูงกว่า หากผลิตจำนวนน้อย ก็จะมีผลต่อราคาการผลิตต่อหน่วยเช่นกัน

▪ กล่องกระดาษแข็งเหล่านี้ มักจะห่อหุ้มผิวนอกด้วยวัสดุกระดาษหุ้มที่มีมูลค่า

ราคาค่อนข้างสูง นี่เป็นสาเหตุหลักประการหนึ่ง ที่ทำให้ต้นทุนการผลิตสูง ทั้งนี้ เหมาะกับสินค้าที่มีมูลค่าสูงและส่วนต่างในกำไรจากสินค้าคุ้มค่าเพียงพอที่จะผลิตบรรจุภัณฑ์ชนิดนี้ เพื่อการปกป้องสินค้าให้ไปถึงปลายทางหรือถึงมือผู้บริโภคอย่างปลอดภัย ตลอดจนการทำหน้าที่เป็นพนักงานขายเงียบสำหรับสินค้านั้นๆ ไปในตัว

ตัววัตถุดิบหลัก

ซึ่งก็คือ กระดาษแข็งภายในแกนกลาง นี่เอง ราคาแผ่นกระดาษแข็ง ต้นทุนราคาแพงกว่า กระดาษกล่องธรรมดาที่ใช้ผลิตกล่องแบบพับได้ หรือแม้กระทั่งกระดาษการ์ดอาร์ตเอง ยิ่งมีความหนามากขึ้น ราคาต่อแผ่นก็สูงตาม นี่เองเป็นอีกหนึ่งต้นทุนสำคัญมาก ที่ทำให้ตัวกล่องกระดาษแข็งจั่วปังมีราคาในการผลิตค่อนข้างสูง ที่สำคัญอีกประการก็คือ กล่องกระดาษแข็งส่วนใหญ่ จะเป็นกล่องที่ถูกขึ้นรูปสำเร็จ ทำให้กินเนื้อที่จัดเก็บ (ไม่สามารถพับแบให้แบนราบได้แบบกล่องกระดาษแบบพับได้ แม้ว่า การออกแบบบางรูปแบบจะสามารถทำให้กล่องกระดาษแข็งพับได้บ้างแล้วก็ตาม แต่ยังคงมีปัญหาเรื่องเนื้อที่ การส่งมอบ การขนส่ง และน้ำหนักด้วยเช่นกัน) โดยเฉพาะอาจทำให้สินค้ามีต้นทุนเกี่ยวกับการขนส่งเพิ่มขึ้นอีกต่างหากได้ด้วย

ดังนั้น คำตอบที่สามารถอธิบาย

ทำไมกล่องกระดาษจั่วปัง ราคาแพงจัง จึงสะท้อนกลับมาให้ผมสรุปว่า การที่กำหนดรับผลิตขั้นต่ำของผมนั้น สอดคล้องกับค่าใช้จ่ายดำเนินในย่อหน้าข้างบน ไม่ว่าคุณจะสั่งผลิตที่ 100 กล่อง หรือ 300, 500, 1000 กล่อง ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ยังคงถูกรวมอยู่ในต้นทุนทุกระดับจำนวน หากคิดในเทอมความคุ้มค่าจะพบว่า การผลิตที่จำนวนหน่วยมากชิ้น จะเฉลี่ยทำให้ต้นทุนของกล่องกระดาษจั่วปัง ราคาต่อกล่องประหยัดลงอย่างมาก เพราะตัวหารมากกว่า ผมสรุปเช่นนี้เกิดจากการสะสมประสบการณ์ข้อมูลในการทำเสนอราคาเป็นพันครั้งในระยะเวลาเกือบๆ 5 ปีนับแต่เริ่มเปิดดำเนินธุรกิจนี้ พบว่า จำนวนขั้นต่ำ 300 กล่องที่จะสั่งผลิตคุ้มค่าและได้รับการยอมรับเรื่องราคาต่อหน่วยได้ดี และในที่สุดที่ผู้สั่งผลิตกล่องเข้าใจ ท่านก็มักจะเพิ่มจำนวนขึ้นเมื่อเห็นว่า จะสามารถประหยัดและคุ้มกว่าหากสั่งจำนวนมากขึ้น

ผู้ผลิตกล่องทั่วไปบางรายไม่มีความรู้ความชำนาญในการผลิตกล่องจั่วปังหรือกล่องกระดาษแข็งตามที่ผมอธิบายมาข้างต้น ก็จะใช้วิธีการจำลองแบบเพื่อจะเสริมบุคลิกของบรรจุภัณฑ์กล่องให้ดูคล้ายเพื่อนำมาใช้ในการบรรจุสินค้าเช่นกัน วัตถุประสงค์หลัก ก็คือ หลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายในการสั่งผลิตที่ค่อนข้างสูงในกล่องกระดาษแข็งมาใช้กล่องที่มีการเลียนแบบรูปร่างให้ดูคล้าย ย้ำ!! นะครับว่า ดูคล้าย เช่นกล่องที่มีผนังสองชั้น (Double Walls box) หรือมากชั้นกว่า หรือแม้กระทั่งใช้กล่องลูกฟูก ลอนE ปะกบผิวด้านหน้า แล้วบอกลุกค้าตนเองว่า นี่เป็นกล่องจั่วปัง ด้วยการทำเป็นรูปทรงต่างๆ ที่ดูละม้ายคล้ายกัน ทำให้ดูหนาทึบ ในด้านความรู้สึก น่าจะช่วยชดเชยความพึงพอใจแก่เจ้าของสินค้าเองได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งการเสริมหรือพับด้วยการออกแบบให้กล่องมีความหนา และน้ำหนักกระดาษดังกล่าว หากไม่ได้อธิบายความจริงแก่เจ้าของสินค้า ก็ไม่ต่างกับการหลอกลวงลูกค้าของเขาเอง

ผมได้รับการสอบถามเพื่อยืนยันความเชื่อของลุกค้าเหล่านั้นด้วยตนเอง แม้ในจรรยาบรรณวิชาชีพ ผมจะไม่ได้กล่าวโทษผู้ผลิตเหล่านั้น แต่การอธิบายโครงสร้างของกล่องที่ถูกต้องต่อลูกค้าผู้สอบถามผมเข้ามาเป็นจำนวนมากรายเข้า ก็ทำให้เข้าใจได้เช่นกันว่า ลุกค้าได้เสียรู้หรือถูกปิดปังความจริง ซึ่งผมก็ได้แต่เห็นใจ และนำมาเขียนเล่าเป็นบทความให้อ่าน หากว่ามีผู้สนใจมาสืบค้นข้อมูลจะได้ทราบความแตกต่างระหว่าง กล่องกระดาษจั่วปัง กับกล่องที่ทำเลียนแบบดังที่ผมอธิบายนั้นเป็นอย่างไร หากสนใจว่า กล่องกระดาษแข็งต่างกับกล่องกระดาษแบบพับได้อย่างไร อ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความที่ผมเขียนก่อนหน้าได้ ที่นี่

สินค้าหลายๆ อย่าง ผมเองยังคิดว่า ไม่จำเป็นต้องใช้กล่องกระดาษแข็ง หรือแม้แต่การทำกล่องเลียนแบบด้วยการทำกล่องหลายชั้นกับทุกชนิดของสินค้าก็ได้ ขึ้นอยู่กับสภาพการแข่งขันในท้องตลาด หรือสถานการณ์ของสินค้าเหล่านั้นเอง ซึ่งการมีบรรจุภัณฑ์ที่ดูดี อาจมีส่วนช่วยได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับวิจารณญาน สภาพการตลาดและการแข่งขัน งบประมาณ ภาพลักษณ์ของสินค้า จุดยืนหรือจุดแข็งของสินค้า อัตลักษณ์ของสินค้าของท่าน

กล่องกระดาษแข็งพรีเมี่ยม กับ โครงสร้างกล่องที่แข็งแรง

ขั้นตอนการผลิตกล่องจั่วปัง
กล่องจั่วปัง
ขั้นตอนการผลิตกล่องกระดาษแข็ง

กล่องจั่วปัง บ้านเรารู้จักคำนี้ที่เข้าใจได้ตรงกันเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของมัน กระนั้นก็ตาม ยังคงมีคนจำนวนมากอาจไม่รู้จักด้วยซ้ำว่า มันเป็นกล่องอะไรกัน อันที่จริง คำเรียกที่เป็นสากล หรือถูกต้องกว่า คือ กล่องกระดาษแข็ง ภาษาอังกฤษใช้คำว่า “ Set-up Box หรือ Rigid Box ลักษณะทางกายภาพแล้ว ดูภายนอกมีความหนากว่ากล่องกระดาษแบบพับได้ประมาณ 3-4 เท่า หากท่านสนใจที่เรียนรู้เพิ่มเติมว่า เปรียบเทียบอย่างไร ลองอ่านเรื่อง ความแตกต่างระหว่างกล่องพับได้กับกล่องกระดาษแข็ง ที่นี่ครับ

บางท่านอาจสนใจเพิ่มเติมว่า แล้วผิวที่เห็นและที่เราต้องการจะพิมพ์หล่ะ ทำอย่างไร ขอเรียนอย่างนี้ครับ ผิวภายนอกที่เราเคยเห็นเป็นสีสรร หรือลวดลายบนกระดาษนั้น เกิดจากวัสดุผิวต่างหากอีกชิ้นหนึ่ง ซึ่งอาจใช้กระดาษพิมพ์ด้วยระบบออฟเซ็ต หรืออื่นใดที่รองรับการพิมพ์ภาพลงได้ ตลอดจนการแปรรูปอื่นๆ เช่น การเคลือบ การพิมพ์ทองเค การพิมพ์ปั้มนูน ปั้มจม หรือการพิมพ์ ยู.วี. เฉพาะจุด เป็นต้น

หากเป็นลวดลายกระดาษอัดลาย หรือวัสดุเลียนแบบ วัสดุสังเคราะห์ที่สามารถดัดแปลงมาใช้เป็นใบผิว เพื่อห่อหุ้มแกนกระดาษแข็ง ที่ขึ้นรูปเป็นกล่อง กล่องกระดาษแข็ง จึงไม่ค่อยเห็นการพิมพ์โดยตรง ลงบนตัวพื้นผิวของกระดาษแข็ง หรือกระดาษจั่วปัง (Greyboard) ดังสาเหตุที่ผมอธิบายข้างต้น ดังนั้น จึงขออธิบายเชิงกายภาพ ส่วนสีสรรภายนอกของกล่องกระดาษแข็ง เป็นเกร็ดความรู้เล็กน้อยอย่างนี้ครับ

• อุปสรรค ปัญหาที่เกิด

กล่องจั่วปัง หรือกล่องกระดาษแข็ง มีมาช้านานแล้ว แต่สมัยก่อนยังไม่มีเครื่องจักรในการห่อหุ้มผิวนอก การผลิตจึงเป็นการห่อหุ้มด้วยการประกอบมือเป็นหลัก ซึ่งมักมีปัญหาหลักๆ อยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อมีการผลิตจำนวนมาก ต้องใข้ระยะเวลายาวนาน ต้องใช้ทักษะงานฝีมือที่มีความละเอียดอ่อน และความชำนาญของผู้ผลิต และแรงงานจำนวนมาก

ซึ่งแน่นอนว่า การทำงานด้วยแรงงานฝีมือย่อมมีความไม่สม่ำเสมอและความประณีตในการทำงานลดลง และมีข้อบกพร่องมากมาย เช่น การเกิดรอยย่น รอยยับ รอยเป็นฟองอากาศ เกิดเป็นรอยคลื่นไม่เรียบ หรือเป็นตะปุ่มตะปํ่า เหล่านี้เป็นต้น ผลสืบเนื่องตามมาจากการทำงานระยะยาว เกิดความเบื่อหน่าย เหนื่อยล้า ความใส่ใจละเอียดอาจถูกละเลยได้

เมื่อถึงขั้นตอนตรวจสอบคุณภาพ งานกล่องที่ถูกผลิตและมีตำหนิ จะถูกคัดออก กลายเป็นความสูญเสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายดำเนินการ ไหนจะต้องทำเพิ่มเพื่อทดแทน นั่นก็ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น หากเล็ดลอดการตรวจสอบจากโรงงานผู้ผลิต เมื่อส่งมอบงานไปถึงลูกค้าและหากเกิดการสุ่มตรวจสอบพบข้อตำหนิหรือไม่ผ่านคุณสมบัติในการรับของ ก็อาจถูกตีของคืน ปฏิเสธการรับของอีก นี่ก็เสียหายอีก

• การแก้ไขที่บริษัทของเราได้กระทำและผ่านพ้นมา

บริษัทฯ ของผู้เขียนได้ผ่านยุคสมัยดังกล่าวมาแล้ว ต่อมา จึงมีการนำผลิตเครื่องจักรเฉพาะทางเข้าช่วยทำงาน ช่วยให้ปัญหาต่างๆ เหล่านี้ได้รับการแก้ไขและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ปัจจุบันเราผลิตกล่องกระดาษแข็ง ด้วยเครื่องจักรเกือบทั้งระบบแล้ว และคาดว่าจะเป็นระบบอัตโนมัติสมบูรณ์ในอีกไม่ช้า เพื่อยกระดับการผลิตให้มีความเป็นสากล ได้มาตรฐานยิ่งขึ้น รองรับคำสั่งการผลิตในปริมาณมาก ร่นเวลาการส่งมอบกล่องที่ผลิตเสร็จได้เร็วขึ้น ตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างทันท่วงที ปัจจุบันกล่องโทรศัพท์ไอโฟน หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าคุณภาพสูงที่เราพบเห็นกัน หลายๆ แบรนด์จะใส่สินค้าของตน ในบรรจุภัณฑ์กล่องกระดาษแข็งกันแล้ว ซึ่งสะท้อนความเป็นสินค้าระดับไฮเอนด์ และมีคุณภาพสูง นอกจากนี้ในหมวดขนมหวาน เช่น ช๊อคโกแลตที่มีตราสินค้าชื่อดังหลายแห่ง ก็ใช้บรรจุภัณฑ์กล่องกระดาษเหล่านี้เป็นสื่อในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ด้วยเช่นกัน

We learn from our own experiences from manual assembly to machine production which gives better accuracy to the output. Whether consistency the smoothness of the cover wrapping, resulting in significant reduction losses, and able to produce quality boxes approved.

Nowadays, we use machines to produce rigid boxes throughout the system. Therefore allowing us to support mass production, can be delivered quickly. This type of box is likely to be more popular in the future certainly.

tag : #greyboard, #Greyboard, #Grey Board, #rigidbox, #Rigidbox, #RigidBox, #Casebox, #casebox, #SetupBox, #Set-upBox, #setupbox, #setup box, #กล่องจั่วปัง, #กล่องกระดาษแข็ง, #กระดาษแข็งสีเทา, # กระดาษจั่วปัง, #กระดาษเกรย์บอร์ด, #กล่องจั่วปังหุ้มด้วยกระดาษอัดลาย, #กล่องจั่วปังหุ้มด้วยกระดาษเคลือบผิวอย่างดี, #กล่องกระดาษแข็งหุ้มด้วยกระดาษอัดลาย, #กล่องกระดาษแข็งหุ้มด้วยกระดาษเคลือบอย่างดี, #ผลิตกล่องจั่วปัง, #ผลิตกล่องจั่วปังที่ไหนดี, #ผลิตกล่องกระดาษแข็งที่ไหนดี, #ผลิตกล่องกระดาษแข็ง, #รับผลิตกล่องจั่วปัง, #รับผลิตกล่องกระดาษแข็ง, #รับผลิตขาตั้งปฏิทินตั้งโต๊ะ, #ขาตั้งปฏิทินตั้งโต๊ะ, #ปกแฟ้มติดสันเหล็ก, #งานหุ้มปกแข็งจั่วปัง,

โรงงานผลิตกล่องกระดาษจั่วปังระดับมืออาชีพ มั่นใจได้ในคุณภาพการผลิต ราคา และไม่ต้องรอนานในการสั่งผลิต สามารถติดต่อเองโดยตรง ไม่ต้องผ่านคนกลาง สอบถามได้ที่ Line Business : @rigidboxmaker และ/หรือ @rigidbox โทรโดยตรงที่คุณอนันต์ 0816128662 คุณจิตรา โทร. 0869734123

กล่องในโลกของบรรจุภัณฑ์ประเภทกระดาษ

กล่องกระดาษแข็ง

กล่องกระดาษแข็ง

สําหรับผู้ที่ไม่ได้อยู่ในแวดวงการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ ความยุ่งยากแก่การทำความเข้าใจสำหรับผู้ที่ต้องการจะใช้งานกล่องต่างๆ นั่นเป็นเหตุให้เกิดความยุ่งยากมากมายไม่ว่าจะสั่งผลิต สั่งซื้อ หรือด้วยเหตุใดๆ ก็ตาม การเรียกขานหรืออธิบายด้วยการจะสื่อความหมายของตนแก่ผู้ผลิตเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายจริงๆ โดยเฉพาะหากพูดถึงเรื่อง “ กล่อง “ ดังนั้น แอดมินเขียนโพสนี้ขึ้น เพื่ออธิบายนิยาม รูปลักษณ์ของบรรจุภัณฑ์เหล่านี้กันครับ ได้แก่

  • Folding Cartons | กล่องแบบพับได้
  • Rigid box/ Set-up box | กล่องกระดาษจั่วปัง
  • Corrugate box | กล่องลูกฟูก

หรือแม้กระทั่งการเลือก “ กล่อง “ ให้เหมาะกับการใช้งานของคุณให้อ่านกันครับ

อย่างไรก็ดี แอดมินจะพยายามพูดเป็นภาษาคน แบบบ้านๆ เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นนะครับ เกี่ยวกับสามรูปลักษณ์ของมัน เบื้องต้นเราจำกัดขอบเขตกันสักนิดว่า เราพูดถึงเรื่อง “ รูปแบบ “ ชนิดที่เป็นกระดาษเท่านั้น (ก่อน) เพื่อจะได้ไม่แตกหน่อแตกเหล่าออกไปไกลจนกู่ไม่กลับ

1] (Folding Cartons) หรือ กล่องแบบพับได้

บางทีเรียกว่า Paperboard Cartons หรือ Paperboard box นั้น รวมแล้วเรียกว่า มันเป็นชนิดเดียวกัน พบเห็นได้ทั่วไปตามร้านสะดวกซื้อ ตามชั้นวางสินค้าในห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต มันอยู่รอบตัวเราจริงๆ แอดมินเรียกกล่องเหล่านี้ (โดยความรู้สึกส่วนตัวของผู้เขียนว่า กล่องยาน้ำแก้ไอ เหมือนผู้ใหญ่ที่นับถือท่านนึงเคยเปรียบเปรย ที่มีความเป็นสามัญธรรมดามากๆ ว่า กล่องขนมครก) ในบางเว็บเอ่ยอ้างว่า ราคาพิมพ์แสนถูก เจ้านี่แหละ เรียกว่า “ กล่องกระดาษแบบพับได้

กล่องกระดาษแข็ง

2] (Rigid box) กล่องกระดาษแข็ง หรือ กล่องจั่วปัง

ชื่อมันก็บอกอยู่ทนโท่นะครับ ว่า “ กล่องกระดาษแข็ง ” ภาษาอังกฤษเรียกว่า Rigid box (Set-up box) อ่านความหมายที่ละเอียดได้จากหน้าเว็บของแบรนด์ของผมเลยครับ และเป็นธุรกิจหลักของผมอีกด้วยครับ ( แอดมินขออนุญาตเคลมหน่อยว่า บริษัทผลิตกล่องกระดาษแข็งของเราเป็นมืออาชีพด้านนี้อย่างแท้จริง ซึ่งเรามีการใช้เครื่องจักร เทคโนโลยีและความรู้ในเชิงโครงสร้างและการจัดการที่ก้าวหน้าปัจจุบันที่สุดขณะนี้ ) ตามนิยามศัพท์หรือลักษณะแล้ว ไม่ควรจะพับได้แบบหัวข้อแรก แต่ในที่สุด ด้วยวิธีการออกแบบฉลาดๆ และแยบยล ทำให้ เดี๋ยวนี้กล่องกระดาษแข็งสามารถพับได้แล้ว (ไว้แอดมินจะโพสรูปที่บริษัทเราผลิตให้ดู) โดยมากแล้ว มักจะใช้กับสินค้าระดับหรู พรีเมี่ยม แต่อย่างไรก็ดี ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าของสินค้าชอบหรือไม่ หรือยอมจ่ายเพื่อซื้อหา กล่องแบบนี้หรือไม่ และมักจะพบว่า มีการใข้บรรจุสินค้าที่มีน้ำหนัก มีมูลค่าสูงและต้องการการปกป้องอย่างมาก ขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกถึงคุณค่าสินค้าข้างในว่าต้องมีมูลค่า มีราคาแน่นอน ยกตัวอย่าง กล่องใส่โทรศัพท์ไอโฟน ซึ่งเป็นกรณีตัวอย่างที่พูดถึงก็เห็นภาพได้เลย

กล่องกระดาษแข็ง
กล่องจั่วปังที่หุ้มด้วยแผ่นหุ้มผิวนอก
กล่องกระดาษแข็ง

3] (Corrugated box) กล่องลูกฟูก

สำหรับกล่องชนิดนี้ ไม่เป็นที่แปลกหูแปลกตาสำหรับพวกเราแน่นอน สามารถพบได้ในแทบทุกผลิตภัณฑ์ที่เราซื้อหา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ทีวี ตู้เย็นหรือกล่องที่ใช้บรรจุสิ่งของเวลาเราขนย้ายสำนักงาน หรือย้ายบ้าน (สำหรับผมมีประสบการณ์แบบนี้ดี ในต่างประเทศก็เป็นแบบนี้แทบทั้งนั้น) แต่สำหรับบ้านเรานี่ สมัยใหม่เดี๋ยวนี้น่าจะพบเห็นได้บ่อยๆ แล้ว กล่องลูกฟูก ตามรูปลักษณ์ภายนอกที่เห็นจะประกอบไปด้วยกระดาษสามชั้น คือ ชั้นบนและล่างเป็นแผ่นผิว ส่วนตรงกลางจะเป็นลอนกระดาษที่ถูกบด เหมือนที่ปิ้งปลาหมึกตากแห้ง แล้วเข้าเครื่องบดยืดออกให้บางและคลายความเหนียว ลักษณะเป็นลอนของกระดาษลูกฟูกก็คล้ายๆ แบบนี้

กล่องกระดาษแข็ง

ในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ กล่องลูกฟูก มักจะทำหน้าเป็นผู้ปกป้องผลิตภัณฑ์ชั้นนอกสุด และถูกใช้เป็นผู้นำส่งผลิตภัณฑ์ไปยังปลายทางหรือสู่ผู้บริโภคในที่สุด จัดเป็นผู้พิทักษ์ ผู้ปกป้อง ผู้นำส่งสินค้าจากต้นทางผู้ผลิตไปยังปลายทางที่เป็นผู้รับหรือผู้ใช้สินค้าอย่างแพร่หลายทั่วโลกเลยทีเดียว
นอกจากนี้ ยังถูกนำมาดัดแปลงใช้ในรูปแบบต่างๆ อย่างชาญฉลาด ด้วยคุณลักษณะที่แข็งแรงเมื่อถูกพับขึ้นรูปทรง ใช้เป็นขาตั้ง ชั้นวางสำหรับแสดงสินค้า หรือเป็นแผ่นป้ายแกนสำหรับติดแผ่นพิมพ์ขนาดใหญ่ และอื่นๆ อีกมากมาย

สรุปประเด็นกัน หลังจากอ่านบทความบรรยายแบบบ้านๆ ของผมข้างบนกันแล้วว่า รูปลักษณ์ของกล่องกระดาษที่ผมเขียนบทความนี้ ได้แก่

Paperboard box หรือกระดาษที่ใช้ทำกล่อง มีความแข็ง มาปรับปรุงด้วยการปั้มอัด ตัดเป็นรูปทรงที่มีรอยพับ สำหรับขึ้นรูปทรง เราพบเห็นได้แทบทุกแห่งรอบตัวเรา ซึ่งผมเรียกกล่องลักษณะเหล่านี้ว่า กล่องยาน้ำแก้ไอ (หมายความว่า นึกถึงยาน้ำแก้ไอสมัยเด็กๆ เวลาเราไม่สบายและหมอจ่ายยาให้ หรือคุณแม่พวกเราซื้อจากร้านขายยามาให้เรารับประทาน)
ให้ลองนึกภาพกล่องใส่โทรศัพท์ไอโฟน นั่นแหล่ะครับ กล่องกระดาษแข็ง
ลังเบียร์ นั่นแหละ นึกง่ายๆ ก็เข้าใจได้เลย เรียกให้ถูกคือ กล่องลูกฟูก

Tags : #ผลิตกล่องกระดาษแข็ง, #กล่องจั่วปังสำเร็จรูป, #สั่งผลิตกล่องจั่วปัง, #กล่องจั่วปังราคาโรงงาน, #กล่องจั่วปังราคาส่ง, #รับทำกล่องBoxsetหนังสือ, #กล่องฝาครอบทรงยาว, #กล่องใส่หนังสือนิยาย, #กล่องของขวัญฝาครอบ, #กล่องกระดาษจั่วปังสำเร็จรูป, #ขนาดกระดาษจั่วปัง, #กระดาษจั่วปัง, #ความหนาของกระดาษจั่วปัง, #กระดาษจั่วปังซื้อที่ไหน, #กระดาษจั่วปังคือ, #กล่องกระดาษแข็งฝาครอบ, #กล่องสินค้าพรีเมี่ยม, #กล่องกระดาษแบบคงรูป, #โรงงานผลิตกล่องกระดาษแข็ง, #กล่องกระดาษแข็งแบบพับได้, #กล่องกระดาษแข็งฝาครอบราคา,

สนใจผลิตติดต่อคุณ ไมเคิล อนันต์ 0816128662 LineOA: @rigidbox และ/หรือ คุณจิตรา 0869734123 LineOA: @rigidboxmaker

#rigidbox, #setupbox, #premiumbox, #greyboard, #bookboxstyle, #claimshellboxstyle, #casebox, #กล่องกระดาษแข็ง, #กล่องจั่วปัง,#กล่องพรีเมี่ยม, #กล่องหรู, #กล่องน้ำตาล, #กล่องของขวัญ, #กล่องโทรศัพท์มือถือ, #กล่องไอโฟน, # กล่องโทรศัพท์ซัมซุง, #กล่องโทรศัพท์เซียวมี่, #กล่องโทรศัพท์มือถือ, #กล่องโทรศัพท์เสี่ยวมี่, #รับทำกล่องจั่วปัง, #รับผลิตกล่องจั่วปัง, #กล่องกระดาษจั่วปัง, #ผลิตกล่องจั่วปัง, #โรงงานผลิตกล่องจั่วปัง, #กล่องจั่วปังราคา, #ผลิตกล่องกระดาษแข็ง, #กล่องกระดาษพรีเมี่ยม, #กล่องจั่วปังแม่เหล็ก

ลักษณะเชิงโครงสร้าง

รูปแบบการจั่วปังเพื่อหุ้มเป็นงานต่างๆ

โครงสร้างของกระดาษจั่วปัง แผ่นกระดาษแข็งจั่วปังนี้จะถูกผลิตเป็นแผ่น พื้นฐานที่ความหนาอยู่ประมาณสามความหนา ได้แก่ ความหนาของเบอร์ 8, 10, 12, 16 ตามลำดับ หากเบอร์ที่เพิ่มขึ้น (ข้อสังเกตมักจะเพิ่มในลักษณะเท่าตัว) นั่นก็หมายถึงความหนา/ความแข็งที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งเบอร์ที่เพิ่มขึ้น ตั้งแต่เบอร์ 20 ขึ้นไปเกิดจากการใช้เบอร์ 10 สองแผ่นปะกบกัน เบอร์ 24 เกิดจากเบอร์  12 สองแผ่นปะกบกัน เป็นต้น ส่วนความหนาอื่นๆ ก็เป็นไปในลักษณะเดียวกัน เช่น ที่ประเทศจีน บางโรงงานอาจมีการผลิตแผ่นหนาชั้นเดียว ซึ่งทำให้กระดาษแข็งมีความแกร่งดี และมีทั้งชนิดที่ปะกบกันตั้งแต่สองชั้นขึ้นไป มีการใช้กระดาษอื่นมาปะกบร่วมทำเป็นผิว เพื่อความเรียบเนียนด้านหนึ่ง ปกติมักใช้เป็นผิวด้านในของกล่อง เช่น การใช้กระดาษกล่องมาปะกบเป็นผิวหนึ่งด้าน หรือกระดาษชนิดพิเศษมาปะกบเป็นผิวหนึ่งด้าน นอกจากนี้ ยังมีการใช้เยื่อที่ถูกย้อมเป็นสีทึบ เช่น สีดำ มาทำเป็นกระดาษแข็งสีดำด้วย ในประเทศไทยยังไม่มีโรงงานใด ทำกระดาษแข็งลักษณะพิเศษดังกล่าว หากมีความต้องการ ผู้ผลิตกล่องกระดาษแข็งต้องจัดทำเองเป็นกรณีพิเศษหรือตามความต้องการของลูกค้า

thickness of greyboards
ความหนาของกระดาษแข็ง | thickness of greyboards

ตามลักษณะการใช้งาน
เรามักพบเห็นการใช้กระดาษแข็งจั่วปังเบอร์ 8 จนถึงเบอร์ 10 ใช้พิมพ์หรือผลิตเป็นแผ่นป้ายแขวน ป้ายราคา ในขณะที่เบอร์ 12, 16 มักจะเห็นนำมาผลิตเป็นขาตั้งแป้นปฏิทินตั้งโต๊ะ หรือติดแผ่นป้ายโฆษณา เบอร์ 20, 24 มักจะเห็นนำไปทำเป็นปกหนังสือปกแข็ง หรือแผ่นปกสำหรับประกาศนียบัตร ปริญญาบัตรต่างๆ ที่เห็นหุ้มด้วยผ้าไหมหรือผ้าสังเคราะห์แบบต่างๆ นั้นแหล่ะ ด้วยเหตุนี้ ความหนาที่เป็นคุณสมบัติของมัน ก็ถูกนำมาทำเป็นกล่องกระดาษแข็ง แล้วหุ้มด้วยกระดาษพิมพ์ลายกราฟิค กระดาษแฟนซีสวยๆ ต่างๆ เพื่อให้เกิดความสวยงาม เป็นต้น เบอร์ที่หนาขึ้นก็มีการนำไปใช้ในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป เช่น อาจนำไปผลิตเป็นกระเป๋า (กระดาษแข็ง) เอกสาร หรือ ปกแฟ้มกันเลย นอกจากนี้ นักออกแบบบรรจุภัณฑ์ นักคิด นักออกแบบอื่นๆ ก็อาจกำหนดให้กระดาษแข็งจั่วปังเป็นไส้ใน แล้วห่อหุ้มด้วยวัสดุที่เลือกสรร ประกอบกันขึ้นเป็นผลิตภัณฑ์แบบต่างๆ เช่น เป็นกล่องกึ่งปกแฟ้ม หรือ กล่องบรรจุเหล้า เครื่องดื่มสุราที่มีแบรนด์ มีตราดัง ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มสินค้าหรู เป็นต้น

ซึ่งคุณสมบัติที่หนาแข็งแรงนี้ ทำให้เกิดเป็นโครงสร้างภายใน หรือไส้ในที่แข็งแรง เพียงพอที่จะปกป้องสินค้าที่มีความบอบบาง หรือชำรุดแตกหักได้ง่ายได้ดี ด้วยการออกแบบถาดรับ หรือชิ้นวางที่กระชับ แข็งแรง สามารถโอบอุ้มและป้องกันสินค้าภายในได้อย่างเหมาะสม ในขณะที่ตัวหุ้มผิวนอก ก็อาจใช้วัสดุที่ปรับแต่งให้สวยงาม เช่น กระดาษที่พิมพ์ไว้อย่างสวยงาม หรือวัสดุสังเคราะห์ที่มีความเหนียวหยุ่น ทนทาน มาหุ้มเพื่อให้เกิดความสวยงาม ทำให้ได้เป็นบรรจุภัณฑ์ที่ดูดี มีความหรู และทำให้ภาพลักษณ์ของสินค้ายกระดับความมีคุณค่าได้อีกด้วย

การใช้จั่วปังเข้ากับรูปแบบงานต่างๆ
โครงสร้างของกระดาษจั่วปัง ที่ใช้ในงานประเภทต่างๆ
โครงสร้างของกระดาษจั่วปัง ที่ใช้ในงานประเภทต่าง ๆ | Greyboard usages

จากที่แอดมินนำเสนอตั้งแต่บทความที่แล้ว กระดาษจั่วปัง คือ อะไร และมาต่อในเครื่องลักษณะเชิงโครงสร้างมาพอสังเขปแล้ว ใน หัวข้อตามลักษณะการใช้งาน ดังกล่าวเป็นเพียงสิ่งที่เราได้พบได้เห็นเป็นส่วนใหญ่เรื่องการใช้งานในบ้านเราเท่านั้น อันที่จริง ยังมีรูปแบบอีกหลายประการที่แอดมินได้เขียนเกริ่นไว้ในหัวข้อที่แล้ว ซึ่งยังมีอีกหลายรูปแบบที่บางครั้งมีการนำมาใช้ แต่ไม่ได้ถูกกล่าวถึงมากนัก เช่น การใช้เป็นแผ่นปกหลังของสมุดโน๊ตหรือสมุดสเก็ตซ์ภาพ (แหน่ะ นึกออกแล้วใช่ไม๊ล่าาาา) แม้มันจะดูด้อยค่า แต่ในบางกรณีก็ไม่อาจขาดมันไปได้

ด้วยเหตุที่โครงสร้างของมันแข็งแรงนี้เอง จึงได้มีการนำมาใช้ หนึ่ง – ตัดเป็นรูปต้นแบบบ้าน สิ่งปลูกสร้างอาคารโรงงาน หรือ สอง – สร้างต้นแบบสินค้าบางประเภทอีกด้วย

ความเป็นมาดั้งเดิม เกรย์บอร์ดหรือที่เรากระดาษจั่วปัง เดิมทีทำมาจากเส้นฟางและเรียกว่า Strawboard มันยังถูกเรียกว่า unlined chipboard, millboard หรือ containerboard คำว่า “ Greyboard “ นี้ชาวดัตช์เป็นผู้นิยามศัพท์คำนี้ ในปัจจุบันนี้คำศัพท์คำนี้ เป็นที่รู้จักและใช้เรียกกระดาษชนิดนี้ว่า Greyboard

แล้วมันยังใช้ทำอะไรได้อีก

เครื่องเขียน (Stationery)

ดังที่แอดมินได้ยกตัวอย่าง การใช้เป็นแผ่นปกหลังของสมุดโน๊ตหรือสมุดสเก็ตซ์ภาพ ด้วยเหตุที่ว่าเป็นวัสดุที่ราคาไม่แพง เป็นของเหลือใช้ ที่ถูกนำมาใช้เป็นแผ่นรอง บางครั้งก็ทำเป็นปกหน้า หรือทั้งปกหน้าและปกหนัง ยังมีก็คือ นำมาทำเป็นส่วนประกอบแกนในของหนังสือหรือสมุดปกแข็ง แกนในของขาตั้งปฏิทินตั้งโต๊ะ

หลอดสำหรับใส่เอกสารส่งไปรษณีย์หรือม้วนกระดาษชำระ

ด้วยความที่ดูเป็นของไม่มีราคา ด้อยค่า มันจึงถูกแปลงมาใช้เป็นส่วนประกอบที่ไม่สำคัญสำหรับสินค้าบางประเภท เมื่อใช้เสร็จพร้อมที่จะถูกทิ้งได้ตลอด ของเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องใช้วัสดุ ไม่จำเป็นต้องพิมพ์หรือเน้นคุณภาพแต่อย่างใด

บรรจุภัณฑ์

สำหรับเป็นเยื่อในการผลิตกระดาษสำหรับแปรรูปเป็นบรรจุภัณฑ์ เช่น กระดาษกล่อง และกระดาษจั่วปัง ที่เรากล่าวถึงในโพสที่แล้ว ฯลฯ ซึ่งภายหลัง กล่องที่ใช้กระดาษจั่วปังเป็นแกนใน เมื่อห่อหุ้มภายนอกอย่างสวยงาม กลายเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ดูดีและประสบความสำเร็จอย่างสูงในโลกบรรจุภัณฑ์ประเภทกระดาษปัจจุบัน กล่องใส่โทรศัพท์ไอโฟน เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดที่ประสบความสำเร็จในการใช้เป็นบรรจุภัณฑ์อีกหลายชนิดของสินค้าภายใต้แบรนด์ Apple อีกด้วย นอกจากนี้ ยังอาจเห็นในรูปเป็นแผ่นรองสำหรับงานศิลปะต่างๆ แผ่นป้ายแขวน แผ่นป้ายแสดงสินค้า เป็นต้น

การสร้างต้นแบบร่าง

ไม่ว่าจะเป็นงานด้านสถาปัตยกรรม ใช้เป็นต้นแบบร่างของรูปทรงอาคาร สิ่งปลูกสร้างหรือแบบจำลองโครงสร้างทางวิศวกรรมอีกหลายๆ อย่างเช่น รางรถไฟ หรือรูปจำลองรถยนต์ เป็นต้น

รูปแบบใหม่ในโลกปัจจุบันที่กระดาษเกรย์บอร์ด หรือ กระดาษจั่วปังถูกนำมาประยุกต์ใช้

แกนกระดาษแข็ง ซึ่งมีความหลากหลายขนาดเส้นผ่าศูนย์ และความหนา ขึ้นอยู่กับว่า จะถูกใช้เป็นแกนสำหรับพันวัสดุหรือสินค้าอะไร เช่น
• สื่อน้ำมัน หรือ พรมถัก พรมทอ
• ฟิลม์ห่อหุ้มอาหาร หรือ ฟิลม์สำหรับใช้ในงานอุตสาหกรรมการห่อหุ้ม
• หลอดสำหรับส่งไปรษณีย์ หรือ บรรจุภัณฑ์หลอดกระดาษแข็ง
• ฉลากชนิดม้วน
• พันผ้าที่ทอเป็นม้วนยาว หรือเมื่อถูกพิมพ์ลายเสร็จแล้ว
• ฯลฯ

ขอบกันกระแทก (Edge Protection)
• กันความเสียหายจากการขนส่ง
• เพื่อปกป้องตัวบรรจุภัณฑ์ภายนอกบริเวณมุม
• สำหรับสินค้าที่เป็นทรงกระบอกด้วยการป้องกันส่วนขอบบน และขอบล่าง
• แทนแผ่นกันความชื้น ใช้รองรับกล่องผลไม้ / ผัก / สลัด เพื่อเพิ่มการป้องกันน้ำค้าง / ฝน สินค้าที่จะถูกเก็บรักษาหรือผลิตในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงได้ที่มีความชื้นสูง เช่น สวนเกษตรหรือเรือนเพาะชำ ผลิตภัณฑ์นี้จะช่วยสนับสนุนโครงสร้างและความแข็งแกร่งของขอบสินค้า

tags: #greyboard, #Greyboard, #Grey Board, #rigidbox, #Rigidbox, #RigidBox, #Casebox, #casebox, #SetupBox, #Set-upBox, #setupbox, #setup box, #กล่องจั่วปัง, #กล่องกระดาษแข็ง, #กระดาษแข็งสีเทา, # กระดาษจั่วปัง, #กระดาษเกรย์บอร์ด, #กล่องจั่วปังหุ้มด้วยกระดาษอัดลาย, #กล่องจั่วปังหุ้มด้วยกระดาษเคลือบผิวอย่างดี, #กล่องกระดาษแข็งหุ้มด้วยกระดาษอัดลาย, #กล่องกระดาษแข็งหุ้มด้วยกระดาษเคลือบอย่างดี, #ผลิตกล่องจั่วปัง, #ผลิตกล่องจั่วปังที่ไหนดี, #ผลิตกล่องกระดาษแข็งที่ไหนดี, #ผลิตกล่องกระดาษแข็ง, #รับผลิตกล่องจั่วปัง, #รับผลิตกล่องกระดาษแข็ง, #รับผลิตขาตั้งปฏิทินตั้งโต๊ะ, #ขาตั้งปฏิทินตั้งโต๊ะ, #ปกแฟ้มติดสันเหล็ก, #งานหุ้มปกแข็งจั่วปัง,

กระดาษจั่วปัง คืออะไร

type of greyboard

กระดาษจั่วปังคือ กระดาษที่ถูกใช้งานพิมพ์ เขียนและผ่านใช้งานมาแล้ว เมื่อถูกทิ้งเป็นเศษกระดาษจากแหล่งต่างๆ ถูกรวบรวมและนำมาใช้เป็นวัตถุดิบของโรงงานผลิตกระดาษจั่วปังนำมาแปรรูป พื่อนำกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง เรียกกระบวนการนี้ว่า “ การรีไซเคิล (Recycle) “ การนำกระดาษที่ผ่านการใช้งานนี้มาปรับแต่งด้วยการแช่น้ำ บด ปั่นแหลก ให้เป็นอณูชิ้นเล็กที่สุด เพื่อกำจัดพื้นผิวภายนอก เช่น เคมี หมึก น้ำยาต่างๆ แล้วกรองออก เหลือเอาเพียงเยื่อกระดาษ ที่ผ่านการแช่น้ำจนยุ่ยแล้วนำเอาเยื่อเหล่านี้มาปรับใส่สารเติมแต่งบางอย่างเพื่อให้มีความคงตัวเพิ่มและแข็งตัวได้ นำมาผลิตเป็นกระดาษเพื่อการใช้ซ้ำอีกครั้ง มักจะเห็นเป็นแผ่นกระดาษแข็งๆ สีเทาๆ นั่นแหละครับ กระดาษแบบนี้ฝรั่งก็รู้จักและผลิตได้เช่นกัน ดังนั้น เขาก็เรียกกระดาษตามรูปพรรณที่เขาเห็นว่า “GREY BOARD” เกรย์ (Grey) แปลว่า “สีเทา” บอร์ด (Board) แปลตรงตัวว่า “แผ่นแข็งๆ” ก็สามารถแทนลักษณะนามว่า กระดาษแข็งสีเทา นั่นเอง อีกนัยหนึ่ง กระดาษจั่วปัง (纸板) เป็นคำจากภาษาจีน จั้ว (纸) แปลว่า “กระดาษ” ปัง (板) แปลว่า “แข็ง” รวมคำกันเป็นคำว่า “กระดาษแข็ง” สมัยก่อนในเมืองจีน โรงงานผลิตสินค้าเครื่องสำอางค์จะนำเอากระดาษแข็งชนิดนี้มาดัดแปลงทำเป็นกล่อง สำหรับใส่แป้งขาว (สมัยนี้ก็เทียบได้กับแป้งพลับ ที่คุณผู้หญิงใช้กันอยู่) สำหรับทาหน้าของผู้หญิง ไม่รู้จะมีคนรุ่นนี้จะทันเห็นของแบบนี้บ้างไม๊นะครับ เลยเป็นที่มาของคำว่า “จั่วปัง” ในภาษาจีน นานวันผ่านไป เมืองไทยก็มีการนำเอากระดาษแข็งแบบนี้มาทำเป็นกล่อง แต่ยังไม่มีคำเรียกเฉพาะ ก็เลยเรียกทับศัพท์ไปว่า เป็นกล่องจั่วปัง จึงกลายเป็นสรรพนามสำหรับกล่องชนิดนี้ไปแล้ว ซึ่งเรียกขานปุ๊บ คนก็จะเข้าใจกันปั๊บ

กระดาษจั่วปังคือ

กระดาษที่จะใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตกล่องกระดาษแข็ง หรือที่มาของคำว่า กล่องจั่วปัง ในภาษาการค้าเรียกกันทั่วไปเป็นหมายเลข เช่น กระดาษแข็งเบอร์ 8, เบอร์ 10, เบอร์ 12, เบอร์ 16, เบอร์ 20, เบอร์ 24, เบอร์ 32, เบอร์ 38, เบอร์ 42 การเรียกขานเช่นนี้อาจเป็นที่คุ้นเคยรู้จักกันในหมู่ร้านค้ากระดาษ แต่ควรรู้ถึงลักษณะนามที่แท้จริงและถูกต้องกว่า คือ การเรียกขานตามน้ำหนัก ซึ่งจะเป็นข้อมูลเปรียบเทียบดังต่อไปนี้

  • N0.8   หนา 0.670 mm. หนัก 420g/แผ่น
  • N0.10 หนา 0.816 mm. หนัก 510g/แผ่น
  • N0.12 หนา 1.03 mm. หนัก 640g/แผ่น
  • N0.16 หนา 1.31 mm. หนัก 820g/แผ่น
  • N0.20 หนา 1.60 mm. หนัก 1000g/แผ่น
  • N0.24 หนา 2.06 mm. หนัก 1290g/แผ่น
  • N0.28 หนา 2.40 mm. หนัก 1500g/แผ่น
  • N0.32 หนา 2.67 mm. หนัก 1670g/แผ่น
  • N0.38 หนา 2.91 mm. หนัก 1820g/แผ่น
  • N0.42 หนา 3.37 mm. หนัก 2110g/แผ่น

ความสัมพันธ์ระหว่างความหนาของกระดาษจั่วปัง กับน้ำหนักของแผ่นกระดาษ

ด้วยข้อมูลที่แอดมินค้นหามาโพสให้อ่าน คุณๆ คงอยากรู้ว่ามีความสัมพันธ์กันอย่างไร ผู้ผลิตในทวีปยุโรป และอเมริกาจะใช้หน่วยมิลลิกรัม ซึ่งเป็นมาตราน้ำหนักเป็นตัวกำหนดขนาดความหนาของกระดาษจั่วปัง แล้วเรียกตามน้ำหนักนั้นๆเช่น กระดาษจั่วปังเบอร์ 28 ว่า เกรย์บอร์ด Greyboard (หรือชิปบอร์ด Chipboard) 1500g. แต่ในฟากฝั่งผู้ผลิตในประเทศจีนจะใช้หน่วยความหนาของกระดาษเป็นตัวเรียก เช่น กระดาษเกรย์บอร์ด 2.40 ม.ม. ซึ่งโดยมากผู้ผลิตจีนมักจะเข้าใจกันทั่วไปเลยว่า คือ น้ำหนัก 1500g. หรือบางครั้งพวกเขาจะเรียกทั้งความหนาและน้ำหนักไปในคราวเดียวกัน ซึ่งผู้ผลิตเหล่านี้เข้าใจถึงโครงสร้างหรือน้ำหนักกระดาษจั่วปังเหล่านี้อย่างดี ถึงแม้จำไม่ได้ เพียงเขาเคาะเครื่องคิดเลขเดี๋ยวเดียวก็บอกออกมาได้แล้ว ซึ่งแอดมินเคยได้รบการแนะนำจากเพื่อนที่เป็นเจ้าหน้าที่ด้านการตลาดของผู้ผลิตกระดาษจั่วปังในจีนว่า ใช้สูตรในการคำนวณความหนา สัมพันธ์กับน้ำหนักของกระดาษจั่วปัง ดังนี้:

ความหนา (หน่วยเป็น มิลลิเมตร : mm. (ม.ม.)) = น้ำหนัก (หน่วยเป็น กรัมต่อตารางเมตร (gsm.) x 1.55 / 1000
ตัวอย่างเช่น : กระดาษที่มีน้ำหนัก 1290 gsm. | ความหนาจะที่ได้คือ
1290 x 1.55 / 1000 = 1.995 mm. หรือ 2 mm. นั้นเอง

ขนาดการบรรจุ มักจะเรียกขานกันเป็นก้อน หรือบางครั้งก็เรียกเป็นรีม แต่ในหนึ่งก้อนหนึ่งรีมนั้น จำนวนแผ่นจะไม่เท่ากัน การจัดบรรจุนี้ โรงงานผู้ผลิตจะกำหนดขนาดบรรจุเป็นน้ำหนักต่อกิโลกรัม โดยให้แต่ละก้อนมีน้ำหนักประมาณ 45 กิโลกรัม จากที่เคยสำรวจข้อมูลไว้ พบว่า:

  • N0.8   หนา 0.67 mm. มีจำนวนก้อนละประมาณ 105-110 แผ่น
  • N0.10 หนา 0.816 mm. มีจำนวนก้อนละประมาณ 90-95 แผ่น
  • N0.12 หนา 1.03 mm. มีจำนวนก้อนละประมาณ 70-79 แผ่น
  • N0.16 หนา 1.31 mm. มีจำนวนก้อนละประมาณ 55-60แผ่น
  • N0.20 หนา 1.60 mm. มีจำนวนก้อนละประมาณ 45-48แผ่น
  • N0.24 หนา 2.06 mm. มีจำนวนก้อนละประมาณ 35-38แผ่น
  • N0.28 หนา 2.40 mm. มีจำนวนก้อนละประมาณ 30-33แผ่น
  • N0.32 หนา 2.67 mm. มีจำนวนก้อนละประมาณ 27-30แผ่น
  • N0.38 หนา 3.10 mm. (แกรมนี้มักจะเป็นของนำเข้าจากต่างประเทศ หรืออาจต้องปะกบขึ้นตามคำสั่งผลิตพิเศษ ซึ่งมักมีข้อกำหนดการสั่งขั้นต่ำในการผลิตด้วย ซึ่งการปะกบอาจต้องใช้กระดาษความหนาต่างชนิดมาทากาวปะกับติดกัน เช่น ในความหนา 3.10 mm. นี้ แอดมินเคยทำด้วยการใช้ No.16 มาปะกบกับ No.20 เพื่อให้ได้ความหนา 3.0 mm. ฯลฯ)
  • N0.42 หนา 3.40 mm. แกรมนี้มักจะเป็นของนำเข้าจากต่างประเทศ หรืออาจต้องปะกบขึ้นตามคำสั่งผลิตพิเศษ ซึ่งมักมีข้อกำหนดการสั่งขั้นต่ำในการผลิตด้วย ในบ้านเราพบเห็นไม่บ่อยนัก กรรมวิธีขึ้นอยู่กับเทคนิคของผู้ผลิตแปรรูปแต่ละราย)

นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการนำกระดาษจั่วปัง ไปประยุกต์ใช้ในงานแบบอื่นๆ อีกเช่น
ใช้เป็นแกนเพื่อยึดเกาะ การใช้กระดาษจั่วปังเป็นแกนเพื่อปะกบสิ่งพิมพ์ หรือกระดาษปิดผิวเพื่อเสริมให้เป็นป้ายแข็งแรงในการแสดงผลหรือเป็นงานที่พับเป็นท่อน เช่นปกแข็งที่ใช้ร่วมกับกล่องจั่วปังทำเป็นกล่องแม่เหล็ก หรือขาตั้งปฏิทินตั้งโต๊ะก็จัดเป็นงานในประเภทนี้
ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเป็นกล่อง ซึ่งเป็นหนึ่งในงานหลักที่จะกระดาษจั่วปังเป็นแกนภายใน หุ้มด้วยผิวที่เป็นกระดาษแฟนซีสวยงาม หรือกระดาษพิมพ์ผิวสี ตกแต่งเพื่อความสวยงามและมาห่อหุ้มผิวภายนอกอีกที
ใช้ในการทำต้นแบบ ด้วยคุณสมบัติความแข็งแกร่ง จึงถูกนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการทำต้นแบบ เช่น ทำโมเดลต่างๆ ซึ่งสามารถตัดด้วยมีดที่แหลมคม เป็นชิ้นส่วนประกอบได้ง่ายดาย

คุณสมบัติเพิ่มเติม :

ความชื้นสัมพัทธ์มีผลต่อความแกร่งของกระดาษจั่วปัง (กระดาษแข็ง)
ตามที่พวกเราได้อ่านบทความจากข้างบนจะทำให้ทราบว่า การผลิตต้องผ่านกระบวนผลิตด้วยนํ้า (ปริมาณมหาศาล) เพื่อนำเอาเยื่อที่ผ่านการปรุงแต่งมาโรยลงบนสายพานตะแกรง มีการกำหนดความหนาของชั้นที่ต้องการผลิตว่าเท่าไร และอบแห้งจนเป็นกระดาษแผ่นแข็งที่เราเห็นกัน ด้านความหนาแอดมินจะได้พูดในหัวข้อต่อไปเรื่อง ความหนาของกระดาษจั่วปัง กลับมาเรื่องความชื้นสัมพัทธ์ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับความแกร่ง หรือความแข็ง กล่าวคือ หากมีปริมาณความชื้นในกระดาษมาก จะทำให้กระดาษมีความอ่อนตัว ในทางตรงข้าม หากมีปริมาณความชื้นในกระดาษน้อย จะผลให้กระดาษมีความแกร่งหรือความแข็งดีกว่า ดังนั้น กระดาษเมื่อถูกผลิตเสร็จเป็นสินค้าแล้ว การเก็บรักษาจึงมีความสำคัญเช่นกัน

สรุป ที่กล่าวมาข้างต้นนี้เป็นลักษณะภายนอกที่มองเห็นได้ของกระดาษจั่วปัง หรือ Greyboard ซึ่งผมจะค่อยๆ เล่าและนำไปสู่เรื่องราวของกล่องกระดาษแข็งในโพสต่อๆ ไปครับ

กระดาษจั่วปังคือ
กระดาษจั่วปังคือ


tags: #greyboard, #Greyboard, #Grey Board, #rigidbox, #Rigidbox, #RigidBox, #Casebox, #casebox, #SetupBox, #Set-upBox, #setupbox, #setup box, #กล่องจั่วปัง, #กล่องกระดาษแข็ง, #กระดาษแข็งสีเทา, # กระดาษจั่วปัง, #กระดาษเกรย์บอร์ด, #กล่องจั่วปังหุ้มด้วยกระดาษอัดลาย, #กล่องจั่วปังหุ้มด้วยกระดาษเคลือบผิวอย่างดี, #กล่องกระดาษแข็งหุ้มด้วยกระดาษอัดลาย, #กล่องกระดาษแข็งหุ้มด้วยกระดาษเคลือบอย่างดี, #ผลิตกล่องจั่วปัง, #ผลิตกล่องจั่วปังที่ไหนดี, #ผลิตกล่องกระดาษแข็งที่ไหนดี, #ผลิตกล่องกระดาษแข็ง, #รับผลิตกล่องจั่วปัง, #รับผลิตกล่องกระดาษแข็ง, #รับผลิตขาตั้งปฏิทินตั้งโต๊ะ, #ขาตั้งปฏิทินตั้งโต๊ะ, #ปกแฟ้มติดสันเหล็ก, #งานหุ้มปกแข็งจั่วปัง,

Rigid Box Making Production Line

ผลิตกล่องกระดาษแข็ง

ผลิตกล่องกระดาษแข็ง (Rigid Box Making) รู้จักกันทั่วไปว่า คือ “ กล่องจั่วปัง “ ที่เราลงทุนใหม่เพิ่มเต็มรูปแบบเพื่อเสริมด้านการพิมพ์ เป็นการต่อยอดการพิมพ์โดยมุ่งสู่อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ หลังจากเราวางรากฐานไว้ตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา

ผลิตกล่องจั่วปัง | หนึ่งในสุดยอดบรรจุภัณฑ์

บจก. สมาร์ท ดิจิทัล โซลูชั่น เป็นโรงพิมพ์ด้วยระบบออฟเซ็ททั่วไป ซึ่งให้บริการผลิตสิ่งพิมพ์หลากหลายรูปแบบ เช่น งานพิมพ์ที่ใช้ในสำนักงานประเภทเอกสาร ใบเสร็จรับเงิน กระดาษจดหมาย ซองจดหมาย ซองเอการ เมนุอาหาร โบรชัวร์ แค็ตตาล๊อคสินค้า สติกเกอร์ ปฏิทินตั้งโต๊ะ ถุงช้อปปิ้ง ปกแฟ้มชนิดปกอ่อนและปกแข็ง

อีกหนึ่งสายการผลิตที่เราขยาย คือ โรงงานผลิตกล่องกระดาษแข็ง (กล่องจั่วปัง หรือ Rigid Box) ด้วยเครื่องจักรทันสมัย เทคโนโลยีล่าสุดวันนี้ สามารถรองรับการผลิตกล่องกระดาษแข็งหรือเป็นที่รู้จักกันในนาม ” กล่องจั่วปัง ” จำนวนมากได้ ภายในเวลาที่รวดเร็ว ด้วยความเป็นมืออาชีพและมีศิลปะในการผลิตกล่องกระดาษแข็ง เราใส่ใจทุกรายละเอียดทุกขั้นตอน ตั้งแต่การออกแบบ การคัดเลือกวัสดุที่เหมาะสม คัดเลือกให้เหมาะกับสินค้าที่จะใช้บรรจุ แนะนำทุกแง่มุมต่อลูกค้า เจ้าของผลิตภัณฑ์ในการเลือกใช้ ในงบประมาณที่เหมาะสมและความเป็นจริง บรรจุภัณฑ์ชนิดนี้ เหมาะกับสินค้าระดับพรีเมี่ยม ที่จะช่วยเสริมภาพลักษณ์และยกระดับสินค้าให้ดูมีมูลค่าอย่างมาก

ผลิตกล่องกระดาษแข็ง ด้านนโยบายเกี่ยวกับราคา

ค่อนข้างเป็นที่เข้าใจอย่างกว้างขวางเกี่ยวราคาในการผลิตค่อนข้างสูง สำหรับกล่องกระดาษแข็งหรือกล่องจั่วปัง ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากการทำกล่องเหล่านี้ มีขั้นตอนที่ค่อนข้างซับซ้อนและใช้อุปกรณ์เกี่ยวข้องหลายชนิด โดยเฉพาะเรื่องการใช้แม่ปั้มไดคัทรูปทรงใบหุ้มกล่อง แม่พิมพ์สำหรับขึ้นรูปกล่องตามขนาดที่ลูกค้าระบุ ตลอดจนการประกอบที่ต้องการความประณีต ยิ่งรูปทรงกล่องที่มีความซับซ้อน ยิ่งต้องการความเข้าใจและทักษะความชำนาญจากผู้ผลิต บริษัทและโรงงานของเรามีความเชี่ยวชาญทั้งอุปกรณ์ เครื่องมือและบุคลากรที่มีประสบการณ์สูงมาก่อนที่เราจะเปลี่ยนมาใช้เครื่องจักรทันสมัยเพื่อมาเสริม และพัฒนาสินค้าของเราได้ดีดังในปัจจุบัน
ผู้อ่านท่านที่สืบค้นพบเราได้อ่านข้อมูลจากเว็บไซต์ของเรา จะมีความเข้าใจเนื้อหาในงานมากขึ้น ท่านที่พบจากการโฆษณาเชิญชวนว่า การผลิตไม่มีขั้นต่ำ หรือเริ่มต้นจำนวนเท่าใดก็ได้ เป็นเรื่องที่สามารถกระทำได้บ้าง แต่ในความเป็นจริง ผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้ต้องดำเนินการในลักษณะคล้ายๆ กัน
เว้นเสียแต่ผู้ผลิตเหล่านั้น
1.) ไม่แจ้งเรื่องจริงหรือนำเสนอเพียงบางส่วน
2.) ผลิตในแบบดั้งเดิมด้วยการใช้ประกอบมือ ซึ่งยากต่อการควบคุมคุณภาพ และไม่สามารถผลิตปริมาณมากได้
3.) ไม่ได้ผลิตเองแต่ใช้วิธีส่งออกให้ผู้รับช่วงผลิตต่ออีกทอดหนึ่ง
หากท่านสนใจว่า ทำไมกล่องจั่วปังราคาแพงจัง ลองดูเพิ่มเติมที่ลิ้งค์ด้วยการกดเข้าไปอ่านได้เลย ท่านจะเข้าใจได้ว่า กล่องกระดาษแข็งช่วยให้สินค้าขายดีได้อย่างไร

rigid box production line
ผลิตกล่องกระดาษแข็ง

We are established and set up new investment in Rigid Box Making, after launching in 2016. To enhance our printing production line, attention focus on the Packaging Industry.
Smart Digital Solution Co., Ltd. is a Printing Service Provider and Rigid Box Making manufacturer. We use the present-day technology, know-how, and machines to produce high-quality Rigid box. With our effective capabilities, we can provide a big volume of box making orders finished on time. We take care of every tiny detail process since the design, materials selecting, and matching of the containing products. We recommend every point of view required to our customers honestly so that they all can reach their desire completely.


Tags: #greyboard, #Greyboard, #Grey Board, #rigidbox, #Rigidbox, #Casebox, #casebox, #SetupBox, #Set-upBox, #setupbox, #setup box, #กล่องจั่วปัง, #กล่องกระดาษแข็ง, #กระดาษแข็งสีเทา, # กระดาษจั่วปัง, #กระดาษเกรย์บอร์ด, #กล่องจั่วปังหุ้มด้วยกระดาษอัดลาย, #กล่องจั่วปังหุ้มด้วยกระดาษเคลือบผิวอย่างดี, #กล่องกระดาษแข็งหุ้มด้วยกระดาษอัดลาย, #กล่องกระดาษแข็งหุ้มด้วยกระดาษเคลือบอย่างดี, #ผลิตกล่องจั่วปัง, #ผลิตกล่องจั่วปังที่ไหนดี, #ผลิตกล่องกระดาษแข็งที่ไหนดี, #ผลิตกล่องกระดาษแข็ง, #รับผลิตกล่องจั่วปัง, #รับผลิตกล่องกระดาษแข็ง, #รับผลิตขาตั้งปฏิทินตั้งโต๊ะ, #ขาตั้งปฏิทินตั้งโต๊ะ, #ปกแฟ้มติดสันเหล็ก, #งานหุ้มปกแข็งจั่วปัง,

การออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์

การออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์

การออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ ด้วยโปรแกรม Photoshop, Illustrator, InDesign นอกจากเรียนรู้การใช้คำสั่งแล้ว ต้องใช้เครื่องมือให้เหมาะกับงานด้วย

การออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์
Photoshop, Illustrator, InDesign ในปัจจุบันถูกใช้เป็นโปรแกรมในการออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์

Print media Design

Photoshop, Illustrator, InDesign is the most powerful application software for design many jobs in graphic design.